ชื่อ | วัดป่าดาราภิรมย์ (ธ) |
---|---|
ที่อยู่ | ๕๑๔ หมู่ ๑ |
โทรศัพท์ | ๐ ๕๓๘๖ ๒๗๒๒ |
โทรสาร | |
จังหวัด | เชียงใหม่ |
อำเภอ | แม่ริม |
ตำบล | ริมใต้ |
วัดป่าดารามภิรมย์ ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาถระ พระกรรมฐาน นักปฏิบัติธรรมผู้ยึดมั่นในการถือธุดงควัตร มักน้อย สันโดษ เจริญรอยตามปฏิปทาของพระมหากัสสปเถรเจ้า ผู้เอตทัตคะทางธุดงควัตร ได้รับอาราธนาจากพระเดชพระคุณพระอุบาลีคุณูปจาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ให้มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มแรกที่วัดเจดีย์หลวง ซึ่งในขณะนั้นยังไม่พลุกพล่านด้วยผู้คน บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ พอออกพรรษาท่านก็ออกจาริกธุดงค์ ไปแสวงหาความสงบสงัด ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๓ ได้จาริกมาทางอำเภอแม่ริม ได้พักอยู่ที่ป่าช้าร้างบ้านต้นกอก ซึ่งในขณะนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้สักและไม้เบญพรรณ อยู่ติดกับบริเวณสวนเจ้าสบาย ตำหนักดาราภิรมย์ ของพระราชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ ๕ ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔ ในขณะนั้นบริเวณวัดเป็นป่าไม้เบญพรรณ (ป่าแพะ ) อยู่เขตชายป่าเทือกเขาดอยสุเทพ และดอยม่อนคว่ำหล้อง (ในตำนานของขุนหลวงวิรังคะ) ยังไม่พลุกพล่านด้วยบ้านผู้คน เป็นสถานที่เงียบสงบสงัด วิเวก ร่ำลือกันว่าเป็นสถานที่ผีดุ พระอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:smarttags" />มั่น ภูริทัตโต อยู่พักชั่วระยะหนึ่ง แสวงจาริกไปที่พระธาตุจอมแตง เพื่อจำพรรษา ๑ พรรษา ไปห้วยน้ำริน ป่าช้าบ้านเด่น บ้านปง ( วัดอรัญญวิเวก ) เชียงดาว และพร้าว ต่อไป <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:office" />
จากสถานที่ป่าช้าร้างที่พระอาจารย์มั่น ผู้บำเพ็ญเผาผลาญกิเลสจนบรรถุถึงอริยมรรคอริยผล ได้มาเจริญสมณธรรม อธิษฐานจิตภาวนา ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการก่อสร้างขึ้นเป็นเสนาสนะป่าขึ้น ด้วยกุฏิศาลา แบบชั่วคราว และมีพระธุดงค์กรรมฐานผู้เป็นศิษย์แห่งพระอาจารย์มั่นมาอยู่จาริกอาศัยบำเพ็ญสมณธรรมตามวิถีแห่งธุดงคกรรมฐาน เป็นการชั่วคาวบ้าง ถาวรบ้าง จึงกล่าวได้ว่าจุดเริ่มต้นของสถานที่แห่งนี้เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๓ โดยท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีพระธุดงคกรรมฐานมาอยู่ปฏิบัติที่ป่าช้าแห่งนี้เป็นครั้งคราว
ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ โดยคณะพุทธบริษัทกลุ่มหนึ่งมีความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาของพระธุดงค์กรรมฐานสายอาจารย์มั่น ภูริทตตมหาเถร ที่จาริกมาประพฤติปฏิบัติ จึงพร้อมใจกันสร้างเสนาสนะ มีกุฏิ และศาลา ถวายแก่พระกรรมฐานเหล่านั้น โดยได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดป่าวิเวกจิตตาราม บางหมู่ก็เรียกว่า วัดป่าเรไร บางหมู่ก็เรียกว่า วัดป่าแม่ริม โดยมีพระอ่อนตา อคคธมโม เป็นประธานสงฆ์อยู่ โดยมีนายแก้ว รัตนนิคม, นายศรีนวล ปัณฑานนท์ เป็นหัวหน้า สถานที่ตั้งแห่งนี้เป็นป่าช้าติดกับตำหนักดาราภิรมย์ สวนเจ้าสบาย ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๒
ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ ทายาทของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี มีเจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าได้น้อมถวายที่ดินอันเป็นเขตพระราชฐานที่ตั้งของตำหนักดารารัศมี สวนเจ้าสบาย ของพระราชชายาฯให้แก่วัด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี จำนวน ๖ ไร่ ทางราชการมีนายสว่าง พรหมปฏิมา นายอำเภอแม่ริม พร้อมทั้งทายาทของพระราชชายา และศรัทธาสาธุชน จึงพร้อมใจกันถวายนามให้แก่วัดใหม่ว่า วัดป่าดาราภิรมย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระกรรมฐาน และถวายพระราชกุศลแก่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ผู้มีคุณูปการต่อเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
จากนั้นมาก็ได้มีผู้มีจิตศรัทธาน้อมถวายที่ดิน และก่อสร้างเสนาสนะถวายโดยลำดับ เช่น ตะก่าจองจิงนะ ได้ถวายที่ดินเป็นจำนวน ๑๒ ไร่ และต่อมาได้มีพระกรรมฐานมาอยู่ประพฤติปฏิบัติกัน
วัดป่าดาราภิรมย์ ได้รับพระบรมราชานุญาต ให้ยกเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒